ทัวร์ญี่ปุ่น GOLDEN ROUTE โตเกียว ฟูจิ โอซาก้า ที่จริงใจ

ทัวร์ญี่ปุ่น GOLDEN ROUTE โตเกียว ฟูจิ โอซาก้า ที่จริงใจ

รหัสทัวร์
071-00459
วันที่เดินทาง
ต.ค.67
ช่วงเวลา
6 วัน 4 คืน
เดินทางโดย
Thai Airways (TG) Thai Airways (TG)

ไฮไลท์

  • วัดอาซากุสะ -โอวาคุดานิ  - Gotemba outlet - หมู่บ้านโอชิโนะฮัคไค
  • ทะเลสาบคาวากุจิโกะ - ฟูจิโนะมิยะ - จุดถ่ายรูปสุดฮิตสะพาน Fujisan Yumeno Ohashi -
  • Fujisan Hongū Sengen Taisha - เกียวโต - วัดคิโยมิสึ - วัดคินคะคุจิ
  • ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ- ช้อปปิ้งชินไซบาชิ - สวนสนุก UNIVERSAL STUDIO JAPAN

แผนการเดินทาง

19.00 คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ เจ้าหน้าที่ดูแลอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน

23.50 ออกเดินทางโดยสายการบิน THAI AIRWAYS เที่ยวบินที่ TG642

08.00 เดินทางถึงสนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าเวลาประเทศไทย 2 ชั่วโมง โปรดปรับเวลาในนาฬิกาของท่านให้เป็นเวลาท้องถิ่น)

***สำคัญมาก!! ประเทศญี่ปุ่นไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศ หากฝ่าฝืนมีโทษปรับและจับ

นำท่านเดินทางสู่ วัดเซนโซจิ หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ วัดอาซากุสะ เป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่และเป็นที่นิยมมากที่สุดวัดหนึ่งของเมืองโตเกียว  โดยจะมีถนนนากามิเสะ ที่เป็นถนนยาวเข้าสู่พื้นที่ภายในวัดที่จะเต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย โดยสัญลักษณ์ที่โดดเด่นของวัดแห่งนี้ก็คือ โคมสีแดงอันใหญ่ยักษ์ตรงประตูคามินาริมงจึงมีอีกชื่อเรียกว่า วัดโคมแดง ด้วยนั่นเอง

วัดอาซากุสะขึ้นชื่อว่าเก่าแก่มากที่สุดของเมืองโตเกียว ถูกสร้างขึ้นเสร็จเมื่อประมาณปี ค.ศ. 645 ตามตำนานเล่าว่าเมื่อประมาณปี 628 สองพี่น้องได้ออกเรือไปตกปลา และตกรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมได้ที่แม่น้ำสุมิดะ (Sumida River) และแม้ว่าพวกเขาจะพยายามทิ้งรูปปั้นกลับลงสู่แม่น้ำเท่าไหร่ก็ตาม รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมก็จะกลับมาหาพวกเขาอยู่เสมอ จึงได้มีการสร้างวัดนี้ขึ้นเพื่อเป็นที่ประดิษฐานของรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม และกลายมาเป็นวัดที่ฮอตฮอตอันดับหนึ่งของเมืองโตเกียวอย่างในปัจจุบันนี่เอง

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่จังหวัดยามานาชิ ใช้เวลาประมาณ​ 3 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หุบเขาโอวาคุดานิ(Owakudani) ตั้งอยู่ที่เมืองฮาโกเน่ในจังหวัดคานากาว่า ลองลิ้มรสไข่ดำแห่งหุบเขาโอวาคุดานิ โดยไข่ดำนี้มาจากน้ำพุร้อนธรรมชาติ ด้านนอกของเปลือกไข่จะเป็นสีดำเนื่องจากถูกแร่กำมะถัน มีความเชื่อว่าเมื่อทานไข่ดำ 1 ลูก จะมีอายุยืนขึ้น 7 ปี หุบเขาโอวาคุดานินั้นเกิดขึ้นมาจากการระเบิดของภูเขาไฟฮาโกเน่เมื่อประมาณ 3000 ที่แล้ว ปัจจุบันก็ยังคงเป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ จึงทำให้มีบ่อน้ำร้อนและถ้ากำมะถันหลงเหลืออยู่ ในวันที่อากาศดีท่านจะสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิจากที่นี่ได้ด้วย  

นำท่านเดินทางสู่ Gotemba premium outlet เอ้าท์เลตแห่งนี้จะมีบรรยากาศแบบเอ้าท์ดอร์ ภายในมีร้านค้ากว่า 200 ร้าน และศูนย์อาหาร รวมถึงชิงช้าสวรรค์ที่สูง 50 เมตรที่ทำให้เราสามารถชมวิวมุมสูงกันได้แบบเพลินๆ จิรงๆแม้จะบอกว่าพอจะมีสินค้าแบรนด์ญี่ปุ่นแต่ที่นี่ส่วนมากจะเน้นไปที่แบรนด์ต่างประเทศมากกว่า โดยร้านค้าต่างๆล้วนเป็นของพรีเมี่ยมแบรนด์จากต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าแฟชั่น อุปกรณ์กีฬา เครื่องใช้ในครัวเรือน และสินค้าอิเลกทรอนิกส์ แบรนด์ก็จะมีทั้ง Abercrombie & Fitch ,Adidas, Alexander McQueen, Alexander Wang, Anna Sui, Balenciaga, Birkenstock, Burberry, Bvlgari, Cath Kidston, Celine, Columbia Sportswear, Diesel,G-Shock, Gucci, Issey Miyake, Kate Spade New York, Lacoste, Levi’s, Marc Jacobs, Nike, Oakley, Paul Smith, Ralph Lauren, Ray-Ban, Saint Laurent และอื่นๆอีกมากมาย

รับประทานอาหารเย็น ณ ห้องอาหารของโรงแรม **พิเศษ! เมนูบุฟเฟ่ต์ขาปูยักษ์**

ที่พัก  Fuji Onsen Hotel หรือเทียบเท่า

ดื่มด่ำไปกับวัฒนธรรมการแช่ออนเซ็นของคนญี่ปุ่น

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

Oshino Hakkai (忍野八海) หรือที่คนไทยเรียกกันติดปากว่า หมู่บ้านน้ำใส นั้นตั้งอยู่ที่จังหวัดยามานาชิ ในเขตพื้นที่เดียวกันกับทะเลสาบทั้ง 5 ที่ล้อมรอบภูเขาไฟฟูจิเอาไว้นั่นเอง นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวชมภูเขาไฟฟูจิจึงนิยมเดินทางมาที่หมู่บ้านน้ำใสแห่งนี้ด้วย ที่นี่มีความสวยงามในระดับที่ว่าได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกทางธรรมชาติในปีค.ศ. 1934 และได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในภูมิทัศน์ทางน้ำที่งดงามร้อยอันดับในปี ค.ศ. 1985 อีกด้วยที่นี่เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เล่าขานกันมาว่าแต่เดิมเป็นพื้นที่ของทะเลสาบรอบภูเขาไฟฟูจิ แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไปทำให้ทะเลสาบเหล่านั้นมีการเหือดแห้งไปตามธรรมชาติเมื่อเวลากว่าหลายร้อยปีที่ผ่านมา และสิ่งที่เหลืออยู่ก็คือบ่อน้ำทั้ง 8 บ่อที่บรรจุน้ำที่ใสสมชื่อหมู่บ้านเอาไว้เต็มเปี่ยม ซึ่งน้ำใสในบ่อทั้ง 8 นี้คือน้ำที่เกิดจากการละลายของหิมะบนภูเขาไฟในช่วงฤดูร้อน ไหลผ่านหินลาวาที่มีรูพรุนรวมกับแร่ธาตุต่าง ๆ ทำให้น้ำนั้นใสแจ๋วอย่างที่เราเห็น คนญี่ปุ่นมีความเชื่อว่าน้ำใน 8 บ่อนี้ไม่ใช่แค่น้ำที่ใสสะอาดและเย็นฉ่ำเท่านั้น แต่มีความศักดิ์สิทธิ์ที่หากใครได้ดื่มกินจะมีอายุยืนยาว ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ซึ่งนักท่องเที่ยวอย่างเราสามารถวักน้ำจากในบ่อขึ้นมาดื่มได้ หรือถ้าหากอยากเก็บกลับไปเป็นที่ระลึกหรือของฝากก็สามารถซื้อขวดจากร้านค้าบริเวณนั้นแล้วกรอกน้ำไส่ขวดกลับไปได้

ทะเลสาบคาวากูจิโกะ(Lake Kawaguchiko) เป็นทะเลสาบที่เดินทางไปถึงได้ง่ายที่สุดในบรรดา 5 ทะเลสาบรอบภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งมีการเชื่อมต่อจากโตเกียวด้วยรถไฟ และรถบัส พื้นที่บริเวณชายฝั่งทิศตะวันออกของทะเลสาบเป็นที่พัก และออนเซนที่สามารถมองเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิที่สวยงามได้อย่างชัดเจน มุมมองที่ดีที่สุดของภูเขาไฟฟูจิ คือชายฝั่งทางตอนเหนือของทะเลสาบ โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ดอกซากุระจำนวนมากเบ่งบานประมาณกลางเดือนเมษายน และฤดูใบไม้ร่วงประมาณครึ่งเดือนแรกของเดือนพฤศจิกายนใบไม้เปลี่ยนเป็นสีแดง ส้ม และเหลืองสลับกัน แต่อย่างไรก็ตามยอดภูเขาไฟฟูจิมักถูกบดบังด้วยเมฆในช่วงกลางวัน

แวะถ่ายรูปภูเขาไฟฟูจิอีกมุมที่ต่างออกไป ณ สะพานฟูจิซัง ยูเมะโนะโอฮาชิ สถานที่ที่ตอนนี้กำลังฮอตฮิตในหมู่นักท่องเที่ยว ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส จะเห็นภูเขาไฟฟูจิชัดเจน เลือกท่าชิคๆ คูลๆ ถ่ายรูปได้ตามสะดวก (การเห็นวิวฟูจิ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ณ วันที่ท่านเดินทาง บริษัทขอสงวนสิทธิ์หากวันที่ท่านเดินทางไม่สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ชัดเจนแบบในภาพโฆษณา)

หากวันที่ท่านเดินทางไม่สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิ บริษัทจะนำท่านไปยัง น้ำตกชิไรโตะ (Shiraito no Taki)

รับประทานอาหารเที่ยง ณ ร้านอาหาร

ศาลเจ้าฟูจิซัง ฮอนกู เซนเง็น ไทฉะ ตั้งอยู่ใกล้กับภูเขาโอมุโระ  ศาลเจ้าใหญ่แห่งนี้มีที่มาซึ่งย้อนกลับไปได้ถึงสมัยที่ญี่ปุ่นปกครองโดยจักรพรรดิซุยจิน จักรพรรดิองค์ที่ 11 ผู้อัญเชิญเทพเจ้าอาซามะโนะโอกามิมาสถิตอยู่ ณ เชิงเขา เพื่อให้ทรงคุ้มภัยจากการเกิดภูเขาไฟระเบิด ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยเสียจนผู้คนเชื่อกันว่าภูเขาไฟฟูจิ ที่ถือว่าเป็นรูปหนึ่งของเทพเจ้านั้น ทรงพิโรธประชาชน แผ่นดินไหวสร้างความเสียหายมากมายให้กับศาลเจ้าในช่วงเวลาหลายปี โครงสร้างที่ยังคงหลงเหลืออยู่นั้นสร้างขึ้นในปีในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1600 โดยโชกุน โทกุกะวะ อิเอะยะสุ และตระกูลโทกุกะวะก็ได้อุปถัมภ์ศาลเจ้าฟูจิซัง ฮอนกู เซนเง็น ไทฉะต่อเนื่องยาวนานหลายชั่วอายุคนหลังจากนั้น ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของภูมิภาคมาโดยตลอด และเป็นศาลเจ้าหลักของศาลเจ้าในนิกายเซ็นเง็นที่มีอยู่มากกว่า 1,300 แห่งทั่วประเทศญี่ปุ่นมายาวนานกว่า 11 ศตวรรษ

ชม เทศกาลประดับไฟ Nabana no sato (รวมค่าเข้าชม)

เทศกาลจะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2567 ถึง 31 พฤษภาคม 2568

งานไฟประดับนี้ตั้งอยู่ใน สวนดอกไม้ Nabana No Sato ซึ่งเป็นหนึ่งในโซนที่เที่ยวยอดนิยมของ Nagashima Resort ที่ตั้งอยู่ในเมือง Kuwana จังหวัด Mie (ติดกับจังหวัด Nagoya) ค่ะ ในแต่ละปีก็จะเปิดให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวพักผ่อน ชมความสวยงามของ ทุ่งดอกไม้ ภายใน รวมไปถึง งานไฟประดับที่สวยงามนี้ด้วย

ภายในงานประดับไฟ Nabana No Sato Illumination นั้น ตามโซนต่างๆ ก็จะมีการประดับประดาไฟ LED ประดับ นับล้านดวง สว่างสไวไปทั่วอย่างสวยงาม โดยนำดวงไฟมาตกแต่งเป็นรูปร่างต่างๆ ทั้ งภูเขาไฟฟูจิ ต้นคริสต์มาส ทุ่งดอกไม้ และอื่นๆ อย่างสวยงามอลังการ

Nabana No Sato Illumination 2022-2023 อุโมงค์ไฟ Tunnel of Light ในแต่ละปี งานไฟประดับสวยๆ นี้ก็จะมีธีมงาน และสีสันต่างกันออกไป โดยในปีนี้ 2022-2023 แน่นอนว่าจะประทับใจและสวยงามอลังการเหมือนทุกๆ ปีที่ผ่านมา ให้เรารายล้อมไปด้วยแสงไฟราวกับโลกในฝันกันเลยค่ะ แต่ไฮไลท์ที่ต้องห้ามพลาดเลยก็คือ อุโมงค์ไฟ Tunnel of Light ที่มีความยาวถึง 200 เมตร สุดอลังการงานสร้าง! ให้เราได้เดินถ่ายรูปสวยๆ ท่ามกลางแสงไฟนวลๆ โรแมนติกมากๆ ใครที่ได้มาเที่ยวยังไงก็ต้องแวะมาที่จุดนี้กันสักครั้ง

รับประทานอาหารเย็น ณ ร้านอาหาร

ที่พัก   NAGOYA HOTEL SAKAEKITA  หรือเทียบเท่า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่จังหวัดเกียวโต เมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่น (ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง)

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดคิโยมิสึ หรือวัดน้ำใส วัดเก่าแก่บนเนินเขาที่มีอายุเก่าแก่กว่าตัวเมืองเกียวโต เป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองเกียวโต สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 778 หรือปี พ.ศ. 1321 นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเพื่อสักการะและขอพรจากองค์พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม 11 พักตร์ 1000 กร ซึ่งเป็นพระประธานของวัด นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นที่ประดิษฐานของเทพเอบิสึผู้เป็นเทพเจ้าแห่งความร่ำรวยมั่งคั่ง วัดสร้างขึ้นในสมัยช่วงต้นของยุคเฮอันเกียวหรือสร้างขึ้นมาก่อนที่เกียวโตจะเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น โดยตระกูลโตกุกาว่า (Tokugawa clan) เป็นผู้สร้างขึ้น ตัววัดก่อสร้างด้วยไม้เกือบทั้งหมด แต่ที่น่าสนใจ ได้แก่ เสาที่ค้ำยันระเบียงวัดขนาดใหญ่ เสาดังกล่าวประกอบไปด้วยเสาไม้ขนาดใหญ่จำนวนร้อยกว่าต้น สร้างขึ้นด้วยไม้ขนาดใหญ่สูงจากพื้น 12 เมตร โดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว เนื่องจากช่างไม้ใช้วิธีเข้าลิ่มด้วยภูมิปัญญาของชาวญี่ปุ่นโบราณ อาคารไม้หลังนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี 1994 จากบริเวณระเบียงวัด นักท่องเที่ยวสามารถชมความงามของทิวทัศน์รอบเมืองเกียวโต มีประโยควลียอดฮิตอยู่วลีหนึ่งเกี่ยวกับ วัดคิโยมิสึเดระ ได้แก่วลีที่ว่า “โดดระเบียงวัดคิโยมิสึเดระ” ที่มาของวลีนี้เกิดจากความเชื่อที่ว่า กระโดดลงจากระเบียงที่วัดคิโยมิสึเดระแล้วยังรอดชีวิตกลับมาได้ ความปรารถนาของคนๆนั้นจะเป็นจริง หลังจากที่วลีนี้แพร่หลาย มีชาวญี่ปุ่นมาโดดระเบียงนี้กันจริงๆ แต่ในปัจจุบัน ทางวัดป้องกันไม่ให้กระโดดแล้ว ชื่อวัดน้ำใส มาจากน้ำตกโอโตวะ (Otowa Waterfall) เป็นน้ำตกที่แบ่งย่อยออกเป็นสามสายไหลลงมาภายในบริเวณวัด เนื่องจากน้ำดังกล่าวมีความใส จึงตั้งชื่อวัดตามลักษณะดังกล่าว ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่า หากผู้ใดได้ดื่มน้ำใสที่วัดคิโยมิสึเดระ จะสมปรารถนาในสิ่งที่หวังไว้ น้ำบริสุทธิ์ อันมีที่มาจากเทือกเขา เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติโดยมีความเชื่อว่า หากดื่มน้ำจากแม่น้ำสายที่      

1. จะประสบความสำเร็จด้านการเรียน การศึกษา

2. จะสมหวังเรื่องความรัก

3. จะมีสุขภาพแข็งแรงทำให้มีอายุยืนยาว

ทางเดินขึ้นสู่วัดชาวไทยเรียกติดปากกันว่า “ถนนสายกาน้ำชา” ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า Go-Jo zaka สาเหตุที่ได้ชื่อนี้เนื่องจากเป็นแหล่งจำหน่ายเครื่องปั้นดินเผาเรียงรายตลอดสองข้างทาง มีกาน้ำชาวางขายเป็นจำนวนมาก บริเวณนี้มีร้านขายของที่ระลึกมากมายให้เลือกชม ร้านขายของฝากของที่ระลึกสไตล์ญี่ปุ่น อาทิ พัดสารพัดแบบ ร่ม เข็มกลัด ชุดกิโมโน ตุ๊กตาในชุดกิโมโน เป็นต้น อีกทั้งยังมีขนมขึ้นชื่อของเมืองเกียวโต พร้อมมีให้ชิมฟรีอีกด้วย

นำท่านเข้าเยี่ยมชม วัดคินคะคุจิ เป็นวัดยอดฮิตวัดหนึ่งในเกียวโต เนื่องด้วยเอกลักษณ์ของวัดที่ไม่เหมือนใคร สองชั้นด้านบนเป็นสีทอง มีสระน้ำขนาดใหญ่ติดกับวัด และที่นี่ยังเป็นวัด (ปราสาท) ในการ์ตูนเรื่องอิคคิวซัง ทำให้นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวชมความสวยงาม และถ่ายรูปที่วัดนี้ วัดทอง (Golden Pavilion) เป็นวัดนิกายเซน มีชื่ออีกชื่อหนึ่งว่าโรคุองจิ (Rokuonji) ในตอนแรกสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่อาศัยหลังโชกุนอะชิคางะสละราชสมบัติ (Ashikaga Yoshimitsu) และเปลี่ยนมาเป็นวัดนิกายเซนในภายหลัง หลังจากที่โชกุนได้เสียชีวิตลงแล้ว อาคารของวัดทอง เคยเสียหายจากไฟไหม้ในช่วงสงครามมาหลายครั้ง แต่ก็มีการสร้างใหม่ตลอด ไฟไหม้ครั้งล่าสุดในปี ค.ศ. 1950 จากฝีมือของพระที่คลั่งในความงามของวัดทอง จนต้องการเผาตัวเองไปพร้อมกับวัด ตัววัดที่เห็นในปัจจุบันสร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1955

รับประทานอาหารเที่ยง ณ ร้านอาหาร

จากนั้นนำท่านเดินทางมายังเมืองโอซาก้า ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแก่ อินาริ เทพเจ้าแห่งการเพาะปลูกและการค้าที่รุ่งเรือง ที่นี่เป็นศาลเจ้าที่สำคัญที่สุดในบรรดาศาลเจ้าอินาริทั้งหมดในญี่ปุ่น แนวเสาประตูโทริอิสีส้มสดใสทอดยาวอย่างสุดตา ขึ้นไปจนถึงยอดเขาอินาริ ทำให้เกิดเป็นภาพอันน่าประทับใจและเป็นหนึ่งในภาพที่โด่งดังที่สุดของญี่ปุ่น เทพเจ้าที่เป็นจุดกำเนิดในการสร้างฟุชิมิอินะริไทฉะนั้นเป็นหนึ่งในเทพหลายองค์ หรือที่เรียกว่าคามิในภาษาญี่ปุ่น อันเป็นที่เคารพบูชากันในนิกายชินโต ศาลเจ้าที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่เทพอินาริมีมากกว่า 35,000 แห่งทั่วประเทศญี่ปุ่น ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นศาลเล็ก ๆ ริมถนน แต่ฟูชิมิอินาริเป็นศาลระดับไทชะ หรือ “ศาลเจ้าใหญ่” และด้วยตำแหน่งที่ตั้งของศาล จึงทำให้ได้รับการอุปถัมภ์จากราชสำนัก และเป็นศาลที่พระจักรพรรดิหลายพระองค์มักแวะเวียนมาทสักการะตั้งแต่ในอดีตแล้ว ว่ากันว่าศาลเจ้าแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 711 ก่อนที่เมือเกียวโตจะกลายเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น ตลอดทางขึ้นสู่ภูเขาอินาริที่มีความสูง 233 เมตรจะมีศาลเจ้าเล็ก ๆ มากมายตั้งอยู่รายทาง และรวมตลอดเส้นทางนี้มีเสาประตูโทริอิประมาณ 10,000 ต้น

เดินทางสู่ ชินไซบาชิ ถนนช้อปปิ้งที่คร่ำคราไปด้วยนักท่องเที่ยว ร้านค้า ร้านอาหารมีตลอดสายถ่ายรูปกับมุมสุดฮิต ป้ายGlico

อิสระอาหารเย็นเพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาของท่าน

ที่พัก  OSAKA HOTEL หรือเทียบเท่า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ออกเดินทางสู่ Universal Studio Japan โดยรถโค้ชปรับอากาศ

สนุกสนานเพลิดเพลิน กับเครื่องเล่นมากมาย ที่จำลองมาจากฉากในภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด สถานที่ซึ่งนักท่องเที่ยวที่จะไปเที่ยวแถบโอซาก้าจะพลาดไม่ได้เป็นอันขาด ที่นี่คือสวนสนุกขนาดใหญ่ที่ให้คุณได้สัมผัสกับโลกแห่งภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด สร้างความสุขสนุกสนานให้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ชื่นชอบการชมภาพยนตร์หรือไม่ก็ตาม ภายในตกแต่งด้วยบรรยากาศราวกับกำลังเดินหลงทางอยู่ในฮอลลีวู้ด นิวยอร์ก และซานฟรานซิสโกเหมาะกับการเดินเล่นสนุกสนานกับกลุ่มเพื่อนเป็นอย่างยิ่ง และที่นี่ยังเต็มไปด้วยเครื่องเล่นอลังการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โซน “Harry Potter” นั้นได้รับการกล่าวถึงว่าเหมือนก้าวเข้าสู่โลกเวทมนตร์ในหนังสือเลยทีเดียว การได้มาเที่ยวที่นี่กับเพื่อนๆ และแต่งตัวเป็นคาแรคเตอร์ต่างๆ เช่น นักเรียนโรงเรียนเวทมนตร์ แก๊ง Minion และ Sesame Street เหมือนกันทั้งกลุ่ม ก็กำลังเป็นที่นิยมในญี่ปุ่นขณะนี้ โซนใหม่ SUPER NINTENDO WORLD เอาใจคนชอบเกมส์ และแฟนคลับมาริโอ้

อิสระเล่นเครื่องเล่นตามอัธยาศัย

มัคคุเทศน์จะนัดเวลาเพื่อเดินทางกลับไปยังที่พัก โปรดรักษาเวลาเพื่อประโยชน์ของตัวท่านเอง

อิสระอาหารเที่ยง และอาหารเย็น เพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาของท่าน

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ศาลเจ้านัมบะ ยาซากะ(Namba Yasaka Shrine) ตั้งอยู่ในย่านนัมบะของเมืองโอซาก้า สามารถเดินเท้าจากจุดถ่ายรูปยอดฮิตอย่างป้ายโฆษณากูลิโกะประมาณ 15 นาทีเท่านั้น มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นอย่างหัวสิงโตปั้นหน้าตาดุดันขนาดใหญ่ตั้งอยู่ด้านหน้า ด้วยความสูง 17 เมตร ความกว้าง 11 เมตรและความลึก 7 เมตร โดยเชื่อกันว่าปากของสิงโตตัวใหญ่นั้นจะสามารถกลืนกินสิ่งไม่ดีต่างๆ ปัดเป่าความชั่วร้ายให้หายไป และนำพามาโชคลาภเข้ามา ซึ่งกลายเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะมาสักการะขอพระเรื่องการเรียนหรือด้านการงานให้เกิดความสำเร็จตามที่มุ่งหวัง อีกทั้งด้วยงานปั้นสิงโตที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นแม้จะมีใบหน้าท่าทางที่จะดูดุไปอยู่บ้างก็กลายเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมสำหรับผู้คนที่มาเยือนศาลเจ้าแห่งนี้เลยทีเดียว ศาลเจ้านัมบะ ยาซากะ แห่งนี้มีสถาปัตยกรรมที่สลับซับซ้อนตามลักษณะของวัดทางพุทธศาสนา เป็นที่ประดิษฐานของเทพผู้ปกครองของนัมบะที่มีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก จากความเชื่อเกี่ยวกับเทพเจ้าและหัวสิงโตยักษ์ จึงทำให้มีผู้คนเข้ามาสักการะขอพระในช่วงเวลาที่สอบ วันสิ้นปี และวันปีใหม่เป็นจำนวนมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะวันอาทิตย์ที่ 3 มกราคมของทุกปี ที่เรียกได้ว่าเป็นเทศกาลสำคัญประจำปีของศาลเจ้า ซึ่งจะมีพิธีกรรมทางศาสนา มีการจำลองการกำจัดงูยักษ์ของเทพเจ้าเพื่อเป็นการสื่อถึงการขจัดสิ่งชั่วร้าย และนำพาความสุ ความเจริญมาสู่พื้นที่ พิธีกรรมนี้ยังได้รับการยอมรับให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมพื้นบ้านของเมืองโอซาก้า รวมทั้งยังมีเทศกาลฤดูร้อนที่จะจัดขึ้นช่วงเดือนกรกฎาคม มีกิจกรรมมากมากมายภายในงาน ไม่ว่าจะเป็น การตีกลองมิโกชิ (Mikoshi) การล่องแห่เรือเทพเจ้าทางน้ำ การเชิดสิงโต และการแสดงศิลปะพื้นบ้านอื่นๆ

ตลาดคุโรมง โอซาก้า (Kuromon Ichiba Market, 黒門市場) เป็นตลาดที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองโอซาก้า จนได้รับสมญานามว่าเป็น ครัวของโอซาก้า(Osaka’s Kitchen) กันเลยทีเดียว มีบรรยากาศภายในเป็นทางเดิน Arcade เล็กๆทอดยาวประมาณ 600 เมตร 2 ข้างทางจะเต็มไปด้วยร้านค้าต่างๆกว่า 160 ร้านค้า ขายทั้งของสด และแบบพร้อมทาน มีของกินเล่นและอาหารพื้นเมืองมากมายหลายชนิดให้ได้ชิมกัน ของที่ขายส่วนภายในตลาดคุโรมงจะเป็นของสด โดยเฉพาะอาหารทะเล เนื้อ และผักต่างๆ ร้านอาหารต่างๆภายในตลาดจึงเน้นขายอาหารทะเลกัน ทั้งแบบสดๆ เช่น ซาชิมิ ซูชิ และหอยนางรม และแบบปรุงสุก เช่น ปลาไหลย่าง ปลาหมึกย่าง หอยเชลย่าง กุ้งเทมปุระ เป็นต้น นอกจากนี้ก็จะเป็นพวกผลไม้ต่างๆตามฤดูกาลของญี่ปุ่นที่ควรค่าแก่การลองเป็นอย่างมาก เช่น แอปเปิ้ล มะเขือเชอรี่ สตอเบอรี่ เมล่อน กีวี และลูกแพร ซึ่งราคามักจะถูกกว่า และหอมหวานกว่าบ้านเรา นอกจากของสดแล้วในตลาดก็จะมีพวกร้านขายของกุบกิบแทรกตัวอยู่บ้าง เช่น อุปกรณ์ทำครัว เสื้อผ้ากระเป๋าต่างๆ แต่ที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งของตลาดนี้ ก็คือพวกร้านขายขนมแบบท้องถิ่น ที่มีทั้งแบบแพคเกจดูบ้านๆ อินดี้ๆหน่อยซึ่งอาจจะไม่ได้เห็นที่อื่นๆ ไปจนถึงแบบที่มีขายทั่วไป อย่างเช่นพวก KitKat กลูลิโกะ รสต่างๆ ประมาณนี้ก็มีให้เลือกเยอะอยู่เหมือนกัน

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ปราสาทโอซาก้า "สวนปราสาทโอซาก้า" สวนสาธารณะเชิงประวัติศาสตร์ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางโอซาก้า เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของผู้คนที่ชื่นชอบปราสาทญี่ปุ่น และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ปราสาทโอซาก้า ถูกสร้างขึ้นในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 16 เพื่อเป็นที่พำนักของโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ผู้รวมญี่ปุ่นให้เป็นหนึ่งเดียวในสมัยนั้น ใช้เวลาตั้งแต่เริ่มก่อสร้างจนถึงเสร็จสมบูรณ์ยาวนานกว่า 16 ปี เป็นปราสาทขนาดใหญ่ที่กลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของญี่ปุ่น แต่ทว่าปราสาทโอซาก้าที่ก่อสร้างขึ้นในยุคสมัยนั้นถูกเผาทำลายไปพร้อมกับการล่มสลายของตระกูลโทโยโทมิ กำแพงหินและยากุระ (หอสังเกตุการณ์)ที่เห็นนี้ จึงได้รับการฟื้นฟูขึ้นใหม่ในสมัยเอโดะ ส่วนตัวปราสาทก็ถูกสร้างขึ้นใหม่หลังจากนั้น แม้กระนั้น ในปัจจุบันปราสาทโอซาก้าก็ยังคงได้รับการดูแลให้อยู่ในสภาพที่น่าเกรงขามและยิ่งใหญ่ จนนับว่าเป็นหนึ่งในสามปราสาทที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น เทียบเท่ากับปราสาทนาโกย่าและปราสาทคุมาโมโตะ ไม่รวมค่าเข้าชมภายในตัวปราสาท (600 เยน)

ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางไปยังสนามบินคันไซ

17.35 น. ออกเดินทางจากสนามบินคันไซ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG673

21.25 น. เดินทางถึงประเทศไทยโดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ

แผนที่

เลือกวันเดินทาง

วันเดินทางไป - กลับ ผู้ใหญ่ท่านละ พักเดี่ยวเพิ่มเงิน ราคาเด็กท่านละ
19 ต.ค. 67 - 24 ต.ค. 6762,999 บาท12,000 บาทสอบถามเพิ่มเติมจอง

เงื่อนไข

** เพื่อความถูกต้อง กรุณาตรวจสอบข้อมูลเดินทางและเงื่อนไขการชำระเงินกับทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายทุกครั้ง
ราคาเริ่มต้น
62,999 บาท
รหัส 071-00459 ทัวร์ญี่ปุ่น GOLDEN ROUTE โตเกียว ฟูจิ โอซาก้า ที่จริงใจ
ราคาเริ่มต้น 62,999 บาท
เดินทางช่วง ต.ค.67
เดินทางโดย Thai Airways (TG)
ดูเพิ่มเติม https://www.sansabaytravel.com/tour.php?tour_id=6184

ไฟล์ PDF https://tourfiles.vm101.net/pdf/046/071-00459.pdf

สนใจติดต่อ แสนสบาย แทรเวล
เลขที่ใบอนุญาต 11/07522
โทร 0817323564
LINE ID @sansabaytravel
อีเมล sansabaytravel@gmail.com
คัดลอกข้อมูลทัวร์
เพิ่มในรายการโปรด
Share on social networks
Scan QRCode
ติดต่อสำนักงาน
แสนสบาย แทรเวล
เลขที่ใบอนุญาต 11/07522

365/687 ม.2 ถ.พุทธบูชา ซ.47 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพ 10140

จันทร์-ศุกร์ 9.00 - 18.00 น
บริการของเรา
บริการจองตั๋วเครื่องบิน
บริการทำ VISA ทุกประเทศ
บริการจัดนำเที่ยวต่างประเทศ
บริการจัดนำเที่ยวในประเทศ
บริการเช่ารถตู้ รถบัสโดยสาร
บริการจัดอบรมประชุมสัมมนา
บริการจองที่พัก โรงแรม รีสอร์ท
ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า
LineID
Add LINE Friends via QR Code
ติดตามเรา
home
หน้าหลัก
quatation
ขอใบเสนอราคา
chat
ติดต่อเรา
ติดต่อ
chat ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า
search ค้นหาโปรแกรมทัวร์
home หน้าหลัก
approval ขอใบเสนอราคา